“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยอมรับเสียใจ หลังแพ้ อิรัก 4-5 ในการดวลจุดโทษ พลาดแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 แต่ยืนยันว่าไม่เสียใจ เบื้องหลังกองทัพช้างศึก แสดงให้เห็นว่าการเล่นไม่ด้อยกว่า

ช้างศึกสามารถตีเสมอกับอิรักได้สองครั้ง ด้วยภาพลักษณ์เกมที่ไม่ด้อยกว่า ครองบอลได้มากกว่า 70% ต่อ 30% และมีโอกาสยิงมากกว่า 9 ต่อ 5 ครั้ง ก่อนจะแพ้จุดโทษ จบอันดับรองชนะเลิศในครั้งนี้

“มาดามแป้ง” ผู้จัดการกองทัพช้างศึก กล่าว “น่าเสียดายที่เราไม่ได้แชมป์ แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะนักเตะชุดนี้ แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างเต็มที่ เราเล่นได้ดีมาก แข่งกับ อิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลก และทีมอันดับ 7 ในเอเชีย และไม่ด้อยกว่าเลย เราครองบอลได้มากกว่า 70% ต่อ 30% และมีโอกาสยิงประตูมากขึ้น”

“ในส่วนของการดวลจุดโทษ เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็แสดงให้เห็นคุณภาพที่ดีและมีความหวังที่จะได้ไปต่อในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ขณะที่ฉีดยา แม้วันนี้เราจะแพ้ แต่แป้งก็ให้เงินน้องๆ อีก 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,500,000 บาท”

นอกจากนี้ “มาดามแป้ง” ยังกล่าวถึง นิโคลัส มิคเคลสัน ที่ทำประตูแรกให้ทีมชาติไทยด้วย

“ผมต้องแสดงความยินดีและอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะในขณะที่แป้งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยรุ่น U23 เขาพยายามมองหานักเตะลูกครึ่งจากยุโรป มาเติมเต็มทีมและทำความรู้จักกับผู้คนมากมาย หนึ่งในนั้นคือมิคเคลสันที่ได้พูดคุยโดยตรงกับทั้งตัวนักเตะและครอบครัวก่อนเลือกเล่นให้ทีมชาติไทยเราไม่ผิดที่พยายามดึงตัวมิคเคลสันเพราะตอนนี้เขาเกิดมาแล้ว และเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับเรา”

“ผมอยากจะขอบคุณแฟนบอลทั้งในเชียงใหม่และดูที่บ้าน ที่คอยสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด แป้งบอกเสมอว่านักเตะคนที่ 12 คือมือเชียร์ทีมชาติไทย เราหวังว่าทุกคนจะยังคงอยู่เคียงข้างเราเช่นนี้ต่อไป”

“สำหรับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกปี 2026 ตอนนี้เราอยู่ในการต่อสู้อย่างใกล้ชิดกับอิรัก อิรักอยู่อันดับ 7-8 ในเอเชีย ดังนั้นผมจึงเชื่ออย่างลึกซึ้งว่าถ้าเราเล่นแบบนี้ได้ เราก็ควรมีโอกาส”

“เพราะอย่าลืมว่าทีมนี้ขาดนักเตะหลายคน ทั้ง ศุภณัฐ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด, ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ ปิติวัฒน์” เห็นว่ามีความหวังมากขึ้นในการผ่านเข้ารอบต่อไปตามที่แฟนบอลชาวไทยรอคอย” มาดามแป้งกล่าวปิดท้าย